ภาพกิจกรรม
ทต.ศาลาด่าน กับความคืบหน้าการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารสถานที่จัดตั้งศูนย์พักคอย (CI) ทต.ศาลาด่าน
102
10 พฤศจิกายน 2564

วันที่ 10 พ.ย. 64 เวลา 09.50 น. เทศบาลตำบลศาลาด่าน กับ ภาพบรรยากาศความคืบหน้า ณ อาคารสถานที่จัดตั้งศูนย์พักคอย (CI) ทต.ศาลาด่าน เตรียมความพร้อมรองรับบริการประชาชนตำบลศาลาด่าน กรณีหากมีผู้ติดเชื้อโควิด-19

::> โดยการบริหารราชการของนายพงศ์สวัสดิ์ ดำรงอ่องตระกูล นายกเทศมนตรีตำบลศาลาด่าน พร้อมมีคณะผู้บริหาร ดังนี้

   ::> นายสุกฤษฎิ์พงษ์ วะเจดีย์ รองนายกเทศมนตรีตำบลศาลาด่าน คนที่ 1

   ::> นายก้าหรีม หมู่มาก รองนายกเทศมนตรีตำบลศาลาด่าน คนที่ 2

   ::> นายบุญนิธิ ก๊กใหญ่ เลขานุการนายกเทศมนตรีตำบลศาลาด่าน

   ::> นายอารีย์ ลู่เด็นบุตร ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีตำบลศาลาด่าน

::> เทศบาลตำบลศาลาด่าน ดำเนินงานปรับปรุงซ่อมแซมอาคารสถานที่จัดตั้งศูนย์พักคอย (CI) ทต.ศาลาด่าน ซึ่งดำเนินการตามโครงการจัดตั้งศูนย์พักคอยรอเตียงใกล้บ้านใกล้ใจ เทศบาลตำบลศาลาด่าน ที่พื้นที่สาธารณะ ณ ตลาดปลอดโฟม (หน้าสวนสาธารณะพระแอะ)

::> ซึ่งโครงการจัดตั้งศูนย์พักคอยรอเตียงใกล้บ้านใกล้ใจ เทศบาลตำบลศาลาด่าน มีวัตถุประสงค์เพื่อเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาดและติดเชื้อโรคโควิด-19 ในชุมชน เพื่อให้ประชาชนผู้ติดเชื้อได้รับการคัดแยกอาการและรักษาดูแลอย่างถูกวิธีเหมาะสมตามแนวทางปฏิบัติด้านสาธารณสุขในการป้องกันการแพร่ระบาดและติดเชื้อโรคโควิด-19 เพื่อให้ประชาชนผู้ติดเชื้อได้มีที่พักอาศัยระหว่างรอเตียงว่างหรือพักอาศัยเพื่อสังเกตอาการหลังจากการรักษาจากโรงพยาบาลหรือโรงพยาบาลสนาม

::> โดยเพื่อการรองรับกรณีหากมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ตำบลศาลาด่าน ซึ่งเป็นผู้ป่วยในระดับสีเขียว และเป็นผู้ป่วยในระดับสีเหลือง ผู้ป่วยทั้งสองระดับนี้อาจรักษาหายโดยไม่ต้องส่งต่อไปโรงพยาบาล เพื่อเพิ่มศักยภาพการดูแลรักษาผู้ป่วย ลดความแออัดกรณีส่งต่อไปโรงพยาบาล รวมทั้งป้องกันและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค โดยแยกผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ออกมาจากบ้าน นำมาพักคอยที่ศูนย์หรือที่บ้านหลังจากการพิจารณาวินิจฉัยประเมินของหน่วยงานสาธารณสุข โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลและรับการประสานจากแพทย์พยาบาลหน่วยงานสาธารณสุขพิจารณาประเมินอาการ ทั้งนี้ รอการนำส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลกรณีหากอาการผู้ป่วยพัฒนาเป็นผู้ป่วยระดับสีแดง

"ร่วมด้วยช่วยกัน ลดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยเพียงแค่ไม่ละทิ้งการป้องกัน และต้องปฏิบัติตามมาตรการของสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด"